ครม.อนุมัติเพิ่มวงเงินให้ กระทรวงมหาดไทย เช่ารถยนต์ตรวจการณ์ 36 คัน จาก 39.5 ล้านบาท เป็น 49.61 ล้านบาท
นางสาวไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า วันนี้ (18 สิงหาคม 2568) ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) อนุมัติเพิ่มวงเงินก่อหนี้ผูกพันโครงการจัดเช่ารถยนต์ตรวจการณ์จำนวน 36 คัน สำหรับนำมาใช้ในราชการของกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น เป็นรายการก่อหนี้ผูกพันงบประมาณ 5 ปี จากปี 2563-2567 โดยให้เพิ่มวงเงินจาก 39.5 ล้านบาท เป็น 49.61 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นประมาณ 10 ล้านบาท ซึ่งเหตุผลที่ต้องขอเพิ่มวงเงินในครั้งนี้ทางกระทรวงมหาดไทยรายงานว่า
หลังจากที่กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นได้รับจัดสรรงบประมาณวงเงิน 39.50 ล้านบาท เพื่อเช่ารถยนต์ตรวจการณ์ชนิด 5 ประตู ขับเคลื่อน 4 ล้อ เครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ 4 จังหวะ ขนาดกระบอกสูบไม่น้อยกว่า 3,000 ซีซี จำนวน 36 คัน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ครม.ไฟเขียว กู้เงินเพิ่ม 2.1 แสนล้าน โปะงบปี 63
"กฤษฎา จีนะวิจารณะ" ผงาดนั่งปลัดคลังคนใหม่
ด่วน! ครม.ขยายจ่ายเยียวยาเกษตรกร 4 กลุ่ม ถึง 15 ก.ย.63
พรุ่งนี้ นายกฯ ประชุม "ศบค.เศรษฐกิจ" นัดแรก
โดยทางกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นได้ดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างด้วยวิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์หรืออี-บิดดิ้ง มาแล้ว 2 ครั้ง ปรากฏว่า ไม่มีผู้มายื่นข้อเสนอ
ทั้งนี้ ทางกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นได้สืบราคาจากบริษัทผู้ให้เช่ารถในท้องตลาด พบว่า งบประมาณที่ตั้งไว้สำหรับเช่ารถ 21,100 บาท/คัน/เดือน ต่ำกว่าราคาค่าเช่าในท้องตลาดที่ปัจจุบันมีราคาประมาณ 26,500-28,800 บาท/คัน/เดือน จึงมีความจำเป็นต้องขอเพิ่มวงเงินก่อหนี้ผูกพันเกินกว่าจากที่ครม.อนุมัติไว้เดิม โดยกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น รายงานด้วยว่า ได้ดำเนินการประกวดราคาโครงการเช่ารถยนต์ตรวจการณ์ในครั้งที่ 3 เรียบร้อยแล้ว ในอัตราค่าเช่า 26,500 บาท/คัน/เดือน รวมเป็นเงิน 49.61 ล้านบาท
โดยมีผู้ยื่นข้อเสนอถูกต้องตามเงื่อนไขที่กำหนด ดังนั้นคณะกรรมการพิจารณาผลการประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์จึงมีมติให้เช่ารถยนต์ตรวจการณ์ดังกล่าว รวมระยะเวลาเช่า 52 เดือน ที่อัตราค่าเช่าคันละ 25,800 บาท/คัน/เดือน รวมเป็นเงิน 48.30 ล้านบาท
August 18, 2020 at 03:48PM
https://ift.tt/3kV7bIm
งบเช่ารถตรวจการณ์มหาดไทย พุ่งเฉียด 50 ล้านบาท - ฐานเศรษฐกิจ
https://ift.tt/374d13T
Bagikan Berita Ini
0 Response to "งบเช่ารถตรวจการณ์มหาดไทย พุ่งเฉียด 50 ล้านบาท - ฐานเศรษฐกิจ"
Post a Comment